คุณค่าจากเรื่องไตรภูมิพระร่วง
ประสาร บุญเฉลียว (ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต )
นายกสมาคมครูมาสเตอร์ภาษาไทย
ไตรภูมิพระร่วง เดิมเรียกว่า เตภูมิกถา หรือ ไตรภูมิกถา สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงเปลี่ยนชื่อหนังสือเล่มนี้เป็น ไตรภูมิพระร่วง เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระร่วงเจ้าแห่งกรุงสุโขทัยให้คู่กับหนังสือสุภาษิตพระร่วง หนังสือไตรภูมิพระร่วง เป็นวรรณคดีทางศาสนาที่สำคัญเล่มหนึ่ง
ในสมัยสุโขทัย ซึ่งมีอิทธิพลต่อคนไทยมาก พญาลิไท ได้ทรงพระราชนิพนธ์ขึ้นหลังจากที่ทรงผนวชแล้ว
คุณค่าของเรื่องไตรภูมิพระร่วง
1. ด้านภาษาและสำนวนโวหาร
เป็นวรรณคดีเล่มแรกที่เรียบเรียงในลักษณะการค้นคว้าจากคัมภีร์ต่าง ๆ
ถึง 30 คัมภีร์ จึงมี
ศัพท์ทางศาสนาและภาษาไทยโบราณอยู่มาก สามารถนำมาศึกษาการใช้ภาษาในสมัยกรุงสุโขทัย ตลอดจนสำนวนโวหารต่าง ๆ
ไตรภูมิพระร่วงมีสำนวนหนักไปในทางศาสนาโวหารและพรรณนาโวหาร ผูกประโยคยาว
และใช้ถ้อยคำพรรณนาดีเด่น สละสลวยไพเราะ ก่อให้เกิดความรู้สึกด้านอารมณ์สะเทือนใจและให้จินตภาพหรือภาพในใจอย่างเด่นชัด เช่น " บ้างเต้นบ้างรำบ้างฟ้อน ระบำบันลือเพลงดุริยดนตรี บ้างดีดบ้างสีบ้างตีบ้างเป่า บ้างขับศัพท์สำเนียง"
2. ด้านความรู้
2.1 ด้านวรรณคดี ทำให้คนชั้นหลังได้รับความรู้ทางวรรณคดี อันเป็นความคิดของคนโบราณ
ซึ่งจะเป็นพื้นฐานของวรรณคดีไทย เช่น พระอินทร์ แท่นบัณฑุกัมพล ช้างเอราวัณ เขาพระสุเมรุ ป่าหิมพานต์
ต้นปาริชาติ ต้นนารีผล นรก สวรรค์ เป็นต้น
2.2 ด้านภูมิศาสตร์ เป็นความรู้ทางภูมิศาสตร์ของคนโบราณ
โดยเชื่อว่าโลกมีอยู่ ๔ ทวีป ได้แก่
ชมพูทวีป บุรพวิเทหทวีป
อุตตรกุรุทวีป และอมรโคยานทวีป โดยมีเขาพระสุเมรุเป็นศูนย์กลาง
3. ด้านสังคมและวัฒนธรรม
3.1 คำสอนทางศาสนา ไตรภูมิพระร่วงสอนให้คนทำบุญละบาป เช่น การทำบุญรักษาศีลเจริญสมาธิภาวนาจะได้ขึ้นสวรรค์การทำบาปจะตกนรก เช่น "คนผู้ใดกล่าวคำร้ายแก่สมณพราหมณ์ผู้มีศิลและพ่อแม่และผู้เฒ่าผู้แก่ครูปาทยาย คนผู้นั้นตาย
ไปเกิดในนรกอันได้ขื่อว่า สุนักขนรกนั้นแล แลมิให้เขาอยู่สบายแลให้เขาเจ็บปวดสาหัส
ได้เวทนาพ้นประมาณ ทนอยู่ในนรกอันชื่อสุนักขนรกนั้นแล"
แนวความคิดนี้มีอิทธิพลเหนือจิตใจของคนไทยมาช้านาน
เป็นเสมือนแนวการสอนศีลธรรมของสังคม
ให้คนปฏิบัติชอบซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการอยู่ร่วมกันในสังคม
3.2 ค่านิยมเชิงสังคม อิทธิพลของหนังสือเล่มนี้ให้ค่านิยมเชิงสังคมต่อคนไทย ให้ตั้งมั่นและยึดมั่นในการเป็นคนใจบุญ
มีเมตตากรุณา รักษาศีล บำเพ็ญทาน รู้จักเสียสละ เชื่อมั่นในผล แห่งกรรม มุ่งใช้คุณธรรมความดีเป็นพื้นฐานการสร้างสรรค์ความสุขในสังคม
3.3 ศิลปกรรม จิตรกรนิยมนำเรื่องราวและความคิดในไตรภูมิพระร่วงไปเขียนภาพสีไว้ในโบสถ์วิหาร โดยจะเขียนภาพนรกไว้ที่ผนังด้านล่างหรือหลังองค์พระประธาน และเขียนภาพสวรรค์ไว้ที่ผนังเบื้องบนรอบโบสถ์วิหาร
4. ด้านอิทธิพลต่อวรรณคดีอื่น
มีหนังสืออ้างอิงทำนองไตรภูมิพระร่วง
ที่มีผู้แต่งเลียนแบบอีกหลายเล่ม เช่น จักรวาลทีปนี ของ พระสิริมังคลาจารย์แห่งเชียงใหม่ไตรภูมิโลกวินิจฉัย
ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และเล่าเรื่องไตรภูมิ เป็นต้น ไตรภูมิพระร่วงมีอิทธิพลสำคัญต่อแนวคิดของกวีรุ่นหลัง โดยนำความคิดในไตรภูมิพระร่วงสอดแทรกในวรรณคดีต่างๆ
เช่น ลิลิตโองการแช่งน้ำ มหาเวสสันดรชาดก รามเกียรติ์ กากีคำกลอนขุนช้างขุนแผน ดังตัวอย่างต่อไปนี้
ลิลิตโองการแช่งน้ำ กล่าวถึงไฟบรรลัยกัลป์ล้างโลก
“กล่าวถึงตะวันเจ็ดอันพลุ่ง
น้ำแล้งไข้ขอดหาย "
รามเกียรติ์ พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่
2 กล่าวถึงปลาอานนท์
" เขาสุเมรุเอนเอียงอ่อนละมุน อานนท์หนุนดินดานสะท้านสะเทือน "
กากีคำกลอน กล่าวถึงแม่น้ำสีทันดร
“อันน้ำนั้นสุขุมละเอียดอ่อน จึงชื่อสีทันดรอันใสสาร"
ขุนช้างขุนแผน กล่าวถึงป่าหิมพานต์
" ม่านนี้ฝีมือวันทองทำ จำได้ไม่ผิดนัยน์ตาพี่
เส้นไหมแม้นเขียนแนบเนียนดี สิ้นฝีมือแล้วแต่นางเดียว
………………………………………………………………………………………
“ปักเป็นหิมพานต์ตระหง่านงาม อร่ามรูปพระสุเมรุภูผา”
หลังจากอ่านเรื่องไตรภูมิพระร่วงแล้ว
ข้าพเจ้ารู้สึกว่า แม้เนื้อหาของเรื่องนี้ซึ่งได้ประพันธ์ขึ้นโดยอิงจากภูมิรู้ทางธรรม อาจดูห่างไกลจากการพิสูจน์
หรือจับต้องได้จริงทางวิทยาศาสตร์ในโลกปัจจุบัน แต่สิ่งหนึ่งซึ่งไตรภูมิพระร่วงได้ฝากข้อคิดไว้แก่ผู้อ่าน นั่นคือ การสะท้อนให้เห็นถึงภาวะอันตรงข้ามกันของ
ความดี และความชั่ว ซึ่งจากเนื้อหา ผู้ประพันธ์ได้ใช้สัญลักษณ์แทนความดีด้วยการพรรณนาให้ผู้อ่านรู้จักกับสวรรค์ อันมีลักษณะน่ารื่นรมย์ ซึ่งต่างกันโดยสิ้นเชิงกับนรกซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของความชั่ว
อันประกอบไปด้วยความทุกข์ทรมานนานาประการ ลักษณะตรงกันข้ามนี้ยังคงเป็นความจริงไม่ผันแปรว่า
แม้โลกจะได้รับการสร้างสรรค์ให้เจริญไปมากเท่าใด หากแต่ใจคนยังคงมีทั้งด้านดี และด้านไม่ดีอยู่เสมอ
เมื่อปฏิบัติดี ย่อมได้รับสิ่งที่ดีเป็นผลสะท้อนกลับ และในขณะเดียวกัน หากปฏิบัติไม่ดี ผลไม่ดีย่อมติดตามมาเป็นของคู่กันเหมือนเงาตามตัว ซึ่งตรงนี้อาจเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้ผู้อ่านได้ตระหนักถึงการมุ่งกระทำดี
และควบคุม หรือลดการกระทำชั่วในชีวิตประจำวันได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น